8 ข้อควรรู้ ก่อนสร้างบ้านเหล็ก

หลายคนยังเกิดความสงสัย ว่า “บ้านเหล็ก” จะมีความแตกต่างจากบ้านคอนกรีตทั่วไปอย่างไรบ้าง ??
ครั้งนี้ 2s metal จึงรวบรวมสิ่งที่ควรรู้ ถ้าคิดจะสร้างบ้านเหล็กมาฝากค่ะ

1. มั่นใจ ว่า ชอบรูปลักษณ์บ้านเหล็ก
สำหรับคนที่รู้ตัวแล้วว่าชอบรูปแบบของงานเหล็กและอยากได้บ้านเหล็ก ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับบ้านที่มีผู้อยู่อาศัยหลายคน รวมไปถึงคนหลากหลายเพศและวัย การพูดคุยสอบถามรวมถึงการนำรูปตัวอย่างอาคารเหล็กมาให้ดู ถามถึงความรู้สึกและความชอบ หากจะต้องอยู่ในบ้านเหล็กที่ดูโมเดิร์น และเรียบเท่แบบนี้ จะรู้สึกอย่างไร เพื่อลดการเข้าใจผิด และสามารถเห็นภาพไปในทางเดียวกันทุกคน

2. เหล็กรูปพรรณ ก่อสร้างเร็วกว่าโครงสร้างคอนกรีต 2-3 เท่า
เพราะโครงสร้างเหล็กรูปพรรณนั้นไม่ต้องรอแห้งหรือรอเซ็ทตัวเหมือนงานคอนกรีต ที่ต้องมีการบ่มคอนกรีตหลายสิบวัน สำหรับโครงการขนาดเล็ก ถึงขนาดกลางอาจใช้เวลาในการยกติดตั้งเพียง 1 – 3 วัน งานโครงสร้างก็แล้วเสร็จ และหากระบบการติดตั้งเป็นระบบแห้ง หรือ Dry Process ก็จะยิ่งทำให้งานก่อสร้างนั้นรวดเร็วมากขึ้นไปอีก
อีกปัจจัยหนึ่งคือการเตรียมชิ้นส่วนให้พอดีและพร้อมสำหรับการติดตั้งควบคู่ไปกับการทำงานโครงสร้าง ทำให้เมื่องานโครงสร้างเสร็จ งานอื่นๆก็สามารถเข้าทำงานได้ทันที

3. หากคิดจะต่อเติม งานเหล็กเหมาะที่สุด
เนื่องจากงานต่อเติมมีเรื่องของ “อาคารเดิม” หรือ “สิ่งที่มีอยู่เดิม” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ในที่นี้หมายถึงการรบกวนสิ่งที่มีอยู่เดิมนั้นน้อยที่สุด เช่น ไม่ทำให้บ้านเดิมร้าวเสียหาย ไม่รบกวนผู้อยู่อาศัยเดิมมากนัก หรือแม้แต่เรื่องพื้นที่ในการทำงาน การต่อเติมมักเป็นพื้นที่เล็กแคบ การใช้โครงสร้างเหล็กจึงเหมาะสมที่สุด เพราะงานเหล็กก่อมลพิษที่น้อยกว่า ทั้งเรื่องมลพิษทางเสียง ทางอากาศ และยังใช้คนงานน้อยกว่าอีกด้วย

4. โครงสร้างเหล็ก สามารถดัดโค้ง ทำโครงสร้างโปร่ง
เนื่องจากเหล็กเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นตัวแต่แข็งแรง ในกระบวนการผลิตจึงสามารถดัดโค้งได้ตามที่ผู้ออกแบบต้องการ และด้วยหน้าตัดเหล็กที่มีลักษณะเป็นรูปตัวเอช H หรือ I มีเส้นสายเล็กๆที่เกิดจากปีกของเหล็ก มีมิติ มีระยะ ทำให้เกิดความรู้สึกโปร่งเบา ต่างจากคอนกรีตที่ต้องเป็นท่อนเสาหรือคานที่ทึบตัน อาคารเหล็กจึงดูเบาสบาย ไม่หนาหนักนั่นเอง

5.เหล็กขายคืนได้ เมื่อไม่ต้องการอาคารนั้นแล้ว
โครงสร้างเหล็กมีคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งที่คอนกรีตไม่สามารถทำได้ คือการที่สามารถขายคืนเพื่อนำไปหลอมและหล่อใหม่เป็นเหล็กได้อีกครั้ง ผู้ขายได้เงินทุนคืน ผู้ผลิตรับเหล็กไปหลอม เป็นการช่วยลดการใช้ทรัพยากรโลกใบนี้ไปในตัวได้ด้วย

6. เหล็กสามารถรับแรงหรือน้ำหนักได้มากกว่าคอนกรีต ในกรณีที่มีหน้าตัด หรือขนาดโครงสร้างเท่าๆ กัน
เหล็กจะมีกำลังในการรับน้ำหนักต่อวัสดุ (Strength) สูงกว่าคอนกรีตประมาณ 10 เท่า ทำให้การรับน้ำหนักของบ้านหลังหนึ่ง ต้องออกแบบเสาคอนกรีตขนาด       30 x 30เซนติเมตร แต่ถ้าหากเป็นเสาเหล็ก H-Beam อาจใช้ขนาดเพียง 20 x 20 เซนติเมตรก็เพียงพอแล้ว เราได้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมากขึ้น และคานเหล็กนั้นสามารถออกแบบให้มีขนาดเล็กกว่าคานคอนกรีตได้ไม่ยาก ทำให้ระยะจากพื้นถึงฝ้ามีมากขึ้น บ้านเหล็กจึงดูโปร่งโล่งมากกว่าบ้านคอนกรีต